เนื้อหา
ในช่วงสงครามครั้งใหญ่ (ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเวลานั้น) ซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2457 และสิ้นสุดในพฤศจิกายน 2461, 262,725 ทหารอเมริกันถูกส่งไปข้างหน้า ในจำนวนนี้มีประมาณ 70,000 คนถูกสังหารหรือสูญหายในการปฏิบัติงานและมีทหารบาดเจ็บ 189,955 คน ด้วยการจากไปของคนหนุ่มสาวจำนวนมากพลวัตในบ้านจึงเปลี่ยนไปอย่างมาก ผู้หญิงถูกเรียกให้ทำงานในทุ่งนาซึ่งเป็นประเพณีที่ผู้ชายทำหน้าที่เป็นแม่บ้านและต่อเนื่อง
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลงในปี 1918 ผู้หญิงทำงานในหลายพื้นที่นอกบ้าน (Jupiterimages / Photos.com / Getty Images)
ออกไปจากบ้าน
เมื่อทหารหนุ่มหลายพันคนเข้าสู่สงครามผู้หญิงจึงถูกเรียกตัวให้เข้าร่วมกับกองกำลัง ผู้หญิงกลายเป็นพนักงานธนาคารพนักงานในโรงงานนักจดชวเลขโทรศัพท์พนักงานขับรถบนถนนเกษตรกรและผู้บังคับการรถไฟ The Defense Defense League ของสหรัฐอเมริกาทำงานประสานงานโดยตรงกับสงครามมากที่สุดรวมถึงการดำเนินงานทางโทรเลขและโทรศัพท์และตำแหน่งชวเลข Seattle Post อินเทลลิเจนเซอร์ในปีพ. ศ. 2460 เห็นว่าโทรเลขหญิงและนักเขียนจดชวเลขเป็น "... ฉลาดกว่าผู้ชายในสายงานนี้"
ที่บ้าน
การดูแลความสะอาดและการคลอดบุตรยังเปลี่ยนไปเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของผู้หญิงจากบ้านสู่ตลาดแรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เนื่องจากงานหลายอย่างไม่ได้ให้บริการดูแลเด็กช่วงกลางวันตำแหน่งงานสำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าที่สามารถรับตำแหน่งพี่เลี้ยงและแม่บ้านได้กลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น ผู้หญิงทุกชนชั้นที่เคยทำงานที่บ้านดูแลครัวของตัวเองทำความสะอาดและเลี้ยงดูลูกตอนนี้เรียกผู้หญิงรุ่นเก่าให้ดูแลลูกในขณะที่ทำงาน
ความรักชาติ
ผู้หญิงอเมริกันเป็นกล้ามเนื้อหลังการสนับสนุนความรักชาติของความพยายามในสงครามที่นำเสนอโดยองค์กรต่าง ๆ เช่นสภากาชาด, ลีกผู้รักชาติและสมาคมสตรีคริสเตียนหญิง (YWCA) สมาชิกของกลุ่มเหล่านี้ทำทุกอย่างตั้งแต่ถักถุงเท้าจนถึงทหารที่ทำงานในโรงพยาบาลทหาร นอกจากนี้ผู้หญิงยังได้รับการสนับสนุนให้รับสมัครผู้ชายที่ยังไม่ได้สมัครเป็นทหาร
สภาพการทำงาน
เงื่อนไขในโรงงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ผลิตกระสุนเป็นอันตรายต่อคนงานหญิง นายจ้างส่วนใหญ่ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยเพื่อรองรับความต้องการของผู้หญิง - ไม่มีห้องน้ำถูกสงวนไว้สำหรับการใช้งาน มันใช้เวลาสำหรับสหภาพแรงงานของผู้หญิงที่จะได้รับแรงผลักดันและโดยทั่วไปในช่วงสงครามผู้หญิงได้รับค่าจ้างเพียงครึ่งเดียวของค่าจ้างของแรงงานชาย แม้ว่าจะมีกฎหมายการจ่ายเงินที่เท่าเทียมกันในยามสงครามนายจ้างหลบเลี่ยงพวกเขาด้วยการจ้างผู้หญิงหลายคนให้ทำงานนอกเวลาซึ่งเป็นการแทนที่คนทำงานเต็มเวลา