เนื้อหา
อาการไอและน้ำมูกไหลมักเกิดขึ้นพร้อมกันและอาการหนึ่งมักเป็นสาเหตุของอีกอาการหนึ่ง เมื่อเมือกเริ่มไหลจากไซนัสถึงคอเรามีสิ่งที่เรียกว่าหยดจมูกหลัง ซึ่งอาจทำให้เยื่อบุคอระคายเคืองซึ่งอาจทำให้เกิดอาการไอ มีการเยียวยาสำหรับอาการทั้งสองและบางครั้งการรักษาทางจมูกก็เพียงพอสำหรับไอยังหยุด
หยุดสาเหตุ
ตามที่ Mayo Clinic, antihistamines และ decongestants ควรจะใช้ในการรักษาปล่อยจมูก การรักษามาตรฐานสำหรับหยดหลังจมูกและอาการภูมิแพ้คือการรวมกันของยาทั้งสองชนิดนี้ ยาแก้แพ้มีคุณภาพยากล่อมประสาทที่จะจบลงด้วยอาการไอ หากสาเหตุของการปลดปล่อยคือการติดเชื้อแบคทีเรียให้รับใบสั่งยาสำหรับยาปฏิชีวนะ
ในบางกรณีอาการน้ำมูกไหลอาจเกิดจากโรคกรดไหลย้อน (gastroesophageal reflux) (GERD) เมื่อเนื้อหาในกระเพาะอาหารขึ้นไปที่คอและสูงถึงไซนัสในเวลากลางคืนเมื่อคนหลับ เช้าวันรุ่งขึ้นรูจมูกจะระบายเมือกกลับเข้าไปในลำคอทำให้เกิดอาการไอและระคายเคืองมากขึ้น
ตามเว็บไซต์ ENTNet.org เมื่อคุณเข้านอนคุณควรเงยหน้าขึ้นระหว่างสิบห้าถึงยี่สิบเซนติเมตรและพยายามอย่ากินหรือดื่มอะไรในสามหรือสี่ชั่วโมงก่อนเข้านอน
รักษาธรรมชาติ
วิธีที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับน้ำมูกคือการล้างเมือกทั้งหมดและทำให้ไซนัสแห้งโดยใช้การชลประทานน้ำเกลือและท่อน้ำจมูกหรือหยดจมูก
เตรียมสารละลายโดยใช้น้ำร้อนประมาณ 230 มิลลิลิตรและเกลือหนึ่งช้อนชาโดยไม่ต้องใช้ไอโอดีน คนให้ละลายเกลือ หากคุณมีหม้อชลประทานให้เติมด้วยน้ำเกลือ หันหัวของคุณไปด้านหนึ่งและใส่คางของคุณ วางตำแหน่งหยดน้ำของเรือชลประทานลงในรูจมูกด้านบนแล้วเริ่มใส่ของเหลวลงไป ขอแนะนำให้หายใจทางปากแทนการกลั้นหายใจและปล่อยให้สารละลายไหลผ่านรูจมูกและผ่านรูจมูกด้านล่าง ทำซ้ำอีกด้านหนึ่งเพื่อให้น้ำดี หากคุณไม่มีขวดชลประทานจมูกคุณสามารถใส่น้ำเข้าไปในรูจมูกของคุณโดยใช้หลอดหยดหรือเข็มฉีดยาจมูก
เก็บเมือกละเอียด
ในขณะที่คุณรอให้ยามีผลและบรรเทาอาการไอและคัดจมูกคุณควรพยายามทำให้เมือกบาง ๆ มูกที่หนาขึ้นสามารถอุดตันคอทำให้เกิดอาการระคายเคืองและไอมากขึ้น
ดื่มน้ำปริมาณมากเพื่อช่วยให้แน่ใจว่าการปล่อยยังคงบางและเป็นของเหลวที่สุด แม้ว่ามันจะไม่หยุดอาการไอ แต่การเป่าจมูกเพื่อความสะอาดจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณไอและขับเสมหะออกมา
นอกจากนี้การให้ความชุ่มชื้นที่ดียังเป็นประโยชน์ต่อร่างกายเสมอ