เนื้อหา
"Rise of Nations" เป็นเกมวางแผนแบบเรียลไทม์ที่พัฒนาโดย Big Huge Games และเผยแพร่โดย Microsoft ในปี 2003 หัวหน้าผู้ออกแบบคือ Brian Reynolds ซึ่งมีเกมคอมพิวเตอร์อัลฟาเซ็นทอรีที่ยอดเยี่ยม "Rise of Nations" นั้นค่อนข้างแปลกในเวลานั้นเพราะมันมีกระดานสำหรับส่วนกลยุทธ์ของเกมและในอีกขั้นคือแผนที่ที่สมจริงพร้อมการต่อสู้แบบเรียลไทม์
Rise of Nations เป็นเกมกลยุทธ์คอมพิวเตอร์ (รูปภาพ Visage / Stockbyte / Getty Images)
"ตำนานที่เพิ่มขึ้น"
"Rise of Legends" เป็นภาคต่อของ "Rise of Nations" ซึ่งเปิดตัวในปี 2549 "Rise of Legends" แตกต่างจากรุ่นก่อนเพราะแทนที่จะเป็นสภาพแวดล้อมโลกแห่งความจริงมันใช้ฉากสมมติและจินตนาการที่ มีสามเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันซึ่งมีความสามารถต่างกันหน่วยจุดแข็งและจุดอ่อน นี่เป็นเพราะมีการเน้นไปที่เกมเกี่ยวกับยุทธวิธีคล้ายกับ "สตาร์คราฟต์" ในเกมที่รวดเร็วและสมดุลไม่เหมือนเกมแรกในซีรีย์
"สงครามทั้งหมด"
เกมในซีรีส์ "Total War" มีทั้งหมด 7 เล่มไม่รวมการขยายที่มีให้ เกมเหล่านี้แต่ละเกมมีรูปแบบเกมคล้ายกับ "Rise of Nations", โหมดยุทธวิธีและเรียลไทม์และกลยุทธ์และการเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้น ซีรีย์ "Total War" นั้นแตกต่างจากเกมวางแผนส่วนใหญ่เนื่องจากการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ของพวกเขาโดยมียูนิตนับพันที่มุ่งเน้นที่การก่อตัวของพวกเขามากกว่าการกระทำของแต่ละหน่วย
"จักรวรรดิโลก"
"Empire Earth" วางจำหน่ายก่อน "Rise of Nations" และไม่มีส่วนกลยุทธ์คล้ายกับกระดาน แต่มันยังมีการต่อสู้แบบเรียลไทม์จำนวนมากและมีวิวัฒนาการตลอดเวลาที่คุณผ่านช่วงเวลาระหว่าง เกมและแต่ละเกมมีกลยุทธ์และหน่วยต่างกันโดยไม่นับรวมกลุ่มผู้เล่นนับไม่ถ้วน ผลสืบเนื่อง "Empire Earth 2" ประกอบด้วยองค์ประกอบเชิงกลยุทธ์มากขึ้นเมื่อดำเนินการรณรงค์
"Age of Empires II: Age of Kings"
ชุดเกม "Age of Empires" และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "Age of Kings" มีอิทธิพลต่อรูปแบบการเล่นของ "Rise of Nations" และสิ่งที่คล้ายคลึงกัน การต่อสู้แบบเรียลไทม์หน่วยเดียวหน่วยฮีโร่การยึดทรัพยากรเวลาที่แตกต่างกันภายในเกมและโหมดผู้เล่นหลายคนเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่ส่งผ่านไปยังซีรีส์ Rise of Nations "Age of Empires III" ที่เปิดตัวในปี 2549 ได้นำรูปแบบกลยุทธ์ของ "Rise of Nations" มาใช้กับแคมเปญต่างๆ