เนื้อหา
- หน้าเค้กระบายสี
- ขั้นตอนที่ 1
- ขั้นตอนที่ 2
- ขั้นตอนที่ 3
- ระบายสีอาหาร
- ขั้นตอนที่ 1
- ขั้นตอนที่ 2
- ขั้นตอนที่ 3
- ขั้นตอนที่ 4
- การบด
- ขั้นตอนที่ 1
- ขั้นตอนที่ 2
- ขั้นตอนที่ 3
สีผสมอาหารเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของอาหารโดยไม่ส่งผลต่อรสชาติ ทำงานได้ดีกับอาหารที่ไม่ได้หมายถึงการผสมกับน้ำ แม้ว่าการย้อมสีอาหารจะทำได้ง่าย แต่การได้สีที่ต้องการด้วยสีย้อมประเภทนี้อาจต้องใช้เวลาลองผิดลองถูกเล็กน้อย มีความเข้มข้นสูง ใช้เท่าที่จำเป็น ใช้ภายใต้แสงที่เป็นธรรมชาติที่สุดเพื่อให้ได้สีที่น่าเชื่อถือมากขึ้น หลังจากเติมสีย้อมลงในอาหารเช่นท็อปปิ้งเค้กแล้วให้ทิ้งส่วนผสมไว้สักครู่ก่อนใช้เพื่อให้สีเข้มขึ้น
หน้าเค้กระบายสี
ขั้นตอนที่ 1
เปิดม่านหน้าต่างเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องที่คุณกำลังทำงานอยู่ แสงจากหลอดนีออนเปลี่ยนโทนสี การทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีแสงธรรมชาติให้มากที่สุดจะทำให้ได้โทนสีที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่ 2
ใช้ช้อนวางไอซิ่งเค้กลงในชาม โรยผงสีผสมอาหารลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
ขั้นตอนที่ 3
พักผ้าที่ย้อมไว้เป็นเวลาห้านาที สีจะพัฒนาทั้งหมดในช่วงเวลานี้ หากคุณต้องการสีเข้มขึ้นให้โรยสีย้อมอีกเล็กน้อยในชามแล้วคนให้เข้ากัน ปล่อยให้สีพัฒนาอีกครั้งก่อนตัดสินใจว่าเป็นเฉดสีที่ต้องการหรือไม่ ทำซ้ำขั้นตอนหากจำเป็น
ระบายสีอาหาร
ขั้นตอนที่ 1
เตรียมพร้อมที่จะทำกระบวนการนี้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงธรรมชาติ
ขั้นตอนที่ 2
ใส่สารสกัดจากมะนาวเล็กน้อยหรือดื่มแอลกอฮอล์ลงในชาม โรยผงสีผสมอาหารลงบนของเหลวแล้วคนให้เข้ากัน
ขั้นตอนที่ 3
ปล่อยให้ของเหลวสีนั่งเป็นเวลาห้านาที สีจะพัฒนาอย่างสมบูรณ์ในช่วงเวลานี้ โรยสีย้อมอีกเล็กน้อยในชามแล้วคนให้เข้ากันถ้าคุณต้องการสีเข้มขึ้น ปล่อยให้สีพัฒนาอีกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจว่าเป็นเฉดสีที่ต้องการหรือไม่ ทำซ้ำขั้นตอนหากจำเป็น
ขั้นตอนที่ 4
จุ่มแปรงทำอาหารลงในของเหลวสีเพื่อทาให้ทั่วอาหาร
การบด
ขั้นตอนที่ 1
ใส่สีผสมอาหารแบบผงลงในน้ำตาลหรือของแห้งอื่น ๆ
ขั้นตอนที่ 2
ผัดสีย้อมและส่วนผสมแห้งอื่น ๆ จนเข้ากัน
ขั้นตอนที่ 3
ใช้ส่วนผสมนี้เพื่อฉีดพ่นอาหารในลักษณะเดียวกับที่คุณใช้กับน้ำตาลคริสตัลขุยมะพร้าวและผลิตภัณฑ์แห้งอื่น ๆ